อมิโนแมก8000

อมิโนแมก8000
เป็นโปรตีนเม็ดที่ช่วยเสริมการสร้างกล้าม โ่ตได้อย่างรวดเร็ว เหมาะสำหรับคนที่ต้องการให้กล้ามโต เหมาะในการพกพา ขนาด 350 เม็ด ราคาสุดคุ้ม 1,099บาท รวมค่าส่งแล้ว

วันพุธที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2553

Glutamine

Glutamine กลูตามีน เป็นกรดอมิโนที่พบมากที่สุดในกล้ามเนื้อของคนเรานะคับ ด้วยอัตราส่วนที่มากกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ ของกล้ามเนือ้ทั้งหมด สารนี้มีส่วนช่วยในการเพิ่มการกักเก็บสารอาหารของกล้ามเนื้อ หรือที่เรียกว่า Cell Volumization และการกระตุ้นปล่อย Growth Hormone ธรรมชาติ นอกจากนี้ยังทำงานในการสร้าง Spport กล้ามเนื้อโดยลดและยับยั้งการทำลายของกล้ามเนื้อ อันเกิดจากความเครียด และการฝึกซ้อมหนักๆ เกินไป การทานอาหารไม่เป็นเวลา ช่วยในการขับถ่ายของเสีย และพิษออกจากร่างกาย นอกจากนี้ยังทำให้นักกีฬา มีสมาธิมากยิ่งขึ้น สมองปลอดโปร่งแจ่มใส และไม่เหนื่อยง่ายหลังฝึกซ้อม
กลูตามีน บริสุทธิ์ จะมีหลายเกรดแต่ จากหลายๆบริษัทได้ทำการจำหน่ายแข่งกันทางด้านการตลาด จนทำให้กลูตามีน มีคุณภาพมากๆ นอกจากนี้ไม่จำเป็นต้องหยุดใช้ แม้แต่ช่วง รีดไขมันหรือ off-season

วันพฤหัสบดีที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2553

เทคนิคการฝึก ตอน 2


เทคนิคนี้เรียกว่า UP AND DOWN THE RACK
คำว่า RACK หมายถึงที่ตั้งหรือที่วางบาร์เบล หรือดัมเบล ดังนั้นการฝึกวิธีนี้จะต้องมีน้ำหนัก ตั้งแต่เบาสุดๆจนถึงหนัก อย่าง 100 ปอนด์ (45 กิโลกรัม) แต่อาจไม่เหมาะสำหรับฟิตเนสที่มีผู้ใช้บริการเยอะๆ
ยกตัวอย่างการฝึก กับท่า ดัมเบล เพลส (Dumbbell Press) ที่ใช้ฝึกไหล่ ผู้ฝึกยืนหันหน้าเข้าหาแรค หยิบดัมเบลคู่หนึ่งที่มีน้ำหนักเบา ฝึกเซทแรก ตามจำนวนครั้งทึ่กำหนด ซึ่งครั้งสุดท้ายของเซทแรกนี้รู้สึก ฝืนๆเท่านั้น แต่ไม่ถึงกับอ่อนแรง หรือฝึกต่อไปไม่ไหว วางดัมเบลทั้งคู่บนแรคตามเดิม ฝึกต่อในเซทที่สองทันที โดยเซทนี่จะยกลูกดัมเบลที่มีน้ำหนักมากขึ้น และสามารถยกต่อไปได้แค่ 6-10 ครั้งเท่านั้น เมื่อท่านไม่สามารถยกต่อไปได้ให้วางดัมเบล บนแรค ทันที และเปลี่ยนไปยก ดัมเบลคู่ที่มีน้ำหนักมากขึ้นไปอีกที่สามารถยกได้แค่ 4-6 ครั้ง ซึ่งเป็นเซทที่ 3 จากนั้น เปลี่ยนไปยกดัมเบล คู่ที่หนักกว่าเดิมอีก เป็นเซทที่ 4 ซึ่งยกน้ำหนักได้เพียงแค่ 3 ครั้งเท่านั้น หลังจากนั้น ให้ยกเซทที่ 5 โดยใช้น้ำหนักที่เบาที่สุด ซึ่งสามารถยกได้ถึง 20-25 ครั้ง ยกจนรู้สึกกล้ามเนื้อร้อนผ่าว ๆ เทคนิค จะนำมาใช้ในกรณีที่เบื่อการฝึก หรือกล้ามเนื้อดื้อ เป็นเทคนิคที่ ลาลี่ สก๊อตเคยใช้ฝึกบ่อยๆ ครับ ลองเอาไปใช้ดูแล้วค่อยมาคุยกันว่าผลเป็นไงบ้างครับ

วันพุธที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2553

เทคนิคการฝึก ตอน 1


เป็นหลักการฝึก เพาะกายที่มีความเข้มข้น ซึ่งดอเรียน เยทส์ มิสเตอร์โอลิมเปีย ใช้ฝึกประจำ โดย สูตรนี้ ไมค์ เมนเซอร์ เป็นต้นตำรับ ของวิธีการนี้
HIGH INTENSITY
ระหว่างฝึกกล้ามไม่ว่าท่านจะฝึกท่าใดก็ตาม ถ้าท่านออกแรงต้านอย่างเข้มข้นสูงสุดเต็มกำลัง เส้นใยกล้ามเนื้อจะทำงานอย่างทั่วถึง และในสภาวะที่ท่านฝึกจนก้าวมาถึงจุดกล้ามเนื้ออ่อนแรงจนไม่สามารถเคลื่อนไหวท่าฝึกได้ อย่างเต็มที่ แม้อีกครั้งเดียวก็ไม่สามารถ เรียกว่า ความเข้มข้นสูง
ดังนั้นครั้งสุดท้ายที่ผู้ฝึกออกแรงเคลื่อนไหวท่าฝึกได้อย่างเต็มสุดกำลัง(สุดชีวิต) จนไม่สามารถฝึกยกครั้งต่อไปได้ ภายในเซทเดียวกัน ทึ่ท่านต้องใช้ความพยายามอย่างสูง ยิ่งท่านใช้ความพยายามยกเหล็กมากแค่ไหน ความเข้มข้นของการฝึกก็สูงมากขึ้นเท่านั้น และผลตอบแทนของการฝึกก็มากขึ้นตามไปด้วย
ผู้ฝึกเพาะกายส่วนใหญ่ ยังไม่รู้ถึงความแตกต่าง ระหว่างความเข้มข้นของพลังงาน และความทนทานของพลังงาน เพราะอาจเข้าใจว่า การฝึกมากคือ การฝึกหนัก ที่จริงแล้ว ฝึกมากกับฝึกหนัก เป็นส่วนที่ตรงข้ามกัน กล่าวคือ ยิ่งเพิ่มจำนวนเซทมากขึ้นเท่าไหร่ ความเข้มข้น ก็ยิ่งลดลงเท่านั้น
ผู้ฝึกสามารถฝึกหนัก หรือฝึกนาน อย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น แต่จะฝึกหนักๆและนานๆ พร้อมๆกันไม่ได้ อาจทำให้เป็นไข้ได้ เพราะร่างกายใช้พลังงานเกินกำลัง
จากการทดลอง ของสถาบัน วีเดอร์ (มิสเตอร์โอลิมเปีย) ทำให้ทราบว่า การเล่นกล้ามแบบเข้มข้นสูง และ ยกแบบเข้มข้นต่ำนั้น ให้ผลต่อร่างกายแตกต่างกัน คือ
การฝึกนาน (เข้มข้นต่ำ)
อัตราการเต้นหัวใจ 60-70 ครั้งต่อนาที
อัตราการหายใจเข้าออก 12-14 ครั้งต่อนาที
ลักษณะการหายใจ เบาและตื้น
การฝึกหนัก (เข้มข้นสูง)
อัตราการเต้นของหัวใจ 150-220 ครั้งต่อนาที
อัตราการหายใจเข้าออก 50-100 ครั้งต่อนาที
ลักษณะการหายใจ แรงและลึก
และลักษณะการฝึกแบบเข้มข้นสูงคืออย่างไร จะพูดแบบสั้นๆว่า คือ การฝึกจนถึงจุดอ่อนแรง ถ้าต้องการให้กล้ามใหญ๋ ต้องเลือกฝึกแบบที่มีความเข้มข้นสูง อัดเหล็กอย่างเต็มกำลัง จนอ่อนแรงไม่สามารถยกได้ในแต่ละเซท และคาบการฝึกไม่ควรมากกว่า 25 เซทต่อครั้งในการฝึก(1 วัน) ส่วนการเคลื่อนไหวในแต่ละเซทจะต้องเคร่งครัดด้วย
ตัวอย่างการกำนดการฝึก
วัน 1 ขา และปลายแขน
วัน 2 อกและท้อง
วัน 3 หลังคอและน่อง
วัน 4 ไหล่ แขนด้านหน้าและด้านหลัง
วัน5 หยุด(พักผ่อน)
นี่ละครับ เทคนิค การฝึกแบบเข้มข้น ทำให้กล้ามพัฒนาและเติบโตไปอย่างมาก หวังว่า หลายท่านคงจะถูกใจกับการฝึกในรูปแบบเข้มข้นคับ

วันอังคารที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2553

คาร์โบไฮเดรต


อาหารที่ให้คาร์โบไฮเดรต เราจะได้อาหารที่เป็นคาร์โบไฮเดรต จากอาหารชนิดต่างๆ เช่น ข้าว ข้าวสาลี ธัญพืช และข้าวโพด ผัก ผลไม้ ถั่วเมล็ดแห้ง อาหารจากสัตว์ และน้ำตาลแปรรูปต่างๆ
ข้าว มี คาร์โบไฮเดรต อยู่ในรูปของแป้ง เป็นอาหารหลักของชนทุกชั้น บนโลกใบนี้
ข้าวสาลี เป็นธัญพืชที่ชาวโลกกินรองลงมา รองจากข้าว เป็นอาหารหลักของทางอเมริกาข้าวโพด เป็นธัญพืชที่เป็นอาหารหลักของชาวอเมริกากลาง และอเมริกาใต้
ผลไม้ มีคาร์โบไฮเดรตน้อยกว่าธัญพืช ผลไม้ส่วนใหญ่ให้กลูโคส และฟรัคโตส ผมไม้ที่มีคาร์โบไฮเดรตมากคือ กล้วย ขนุน ทุเรียน น้อยหน่า นอกจากนี้แล้วในผลไม้ยังมี วิตามินและเกลือแร่อยู่ด้วย
ถั่วเมล็ดแห้ง พวกถั่วเหลือง ถั่วเขียว ถั่วแดง ถั่วลิสง นอกจากจะให้โปรตีนแล้ว ยังให้คาร์โบไฮเดรตอีกด้วย ค้นพบว่าในถั่วเหลือง มีสารอาหาร ที่เพิ่มการเติบโต คือ โกร์ทฮอร์โมน ดังนั้น นักเพาะกายที่กินถั่วเหลืองมากๆ หรือดื่มนมถั่วเหลืองมากๆ จะมีกล้ามเนื้อที่เติบโตเร็ว

คาร์โบไฮเดรต มีบทบาทที่สำคัญมากๆ
1คาร์โบไฮเดรต 1 กรัมให้พลังงาน 4 กิโลแคลอรี่
2 รักษาคุณประโยชน์ของโปรตีน ถ้าเราได้รับ แป้ง (คาร์โบไฮเดรต) เพียงพอ ร่างกายจะไม่สลายโปรตีน มาเป็นพลังงาน โปรตีนจะถูกนำไปสร้างเยื่อใยกล้ามเนื้อต่างๆ ซึ่งรวมถึงเซลล์กล้ามเนื้อด้วย
3 รักษาการเผาผลาญไขมัน ถ้าขาดแป้ง ปริมาณมาก จะเกิดการเผาผลาญไขมัน เพื่อใช้เป็นพลังงาน ในกรณีจะใช้กับนักกล้ามที่ต้องการลดไขมัน จะลดปริมณแป้งลง และเพิ่มโปรตีนมากขึ้น
4ช่วยในการขับถ่ายอุจจาระ ช่วยกระตุ้นการทำงานของลำไส้ให้มีการขับถ่ายเป็นปกติ
ส่วนสำหรับ นักเพาะกาย สิ่งที่ผมจะแนะนำให้ทาน คือข้าวกล้อง เพราะจะมีประโยชน์มากกว่า ข้าวขาว ข้าวกล้องจะมีจมูกข้าวและเยื่อหุ้มเมล็ดข้าว อยู่ครบ มีวิตามิน และแร่ธาตุต่างๆมาก ซึ่งการทานข้าวจะให้พลังงาน คนที่จะเล่นกล้ามมักจะทานก่อนไปเพาะกล้ามประมาณ 1.5-2 ชั่วโมง

วันเสาร์ที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2553

เพาะกายกับวัยเลข4ขึ้นไป

เมื่อกล่าวถึง การเพาะกาย ท่านผู้อ่าน อาจคิดถึงแต่ ผู้ชายวัยฉกรรจ์ อายุไม่เกิน 20-39ปี แต่แตกต่างกันมากเมื่อผมลองไปหาในข้อมูลดู นักเพาะกายชั้นแนวหน้าหลายๆท่าน ยังคงฟิตหุ่นและกล้ามเนื้อยังคงฟิตปั๋งมากๆ น่าทึ่งไหมคับ
การออกกำลังกายที่อาศัยแรงกดดันจากอุปกรณ์น้ำหนัก ประเภท ฟรีเวท (บาเบลและดัมเบล) เป็นวิธีการเพาะกายที่มีคุณประโยชน์ อย่างยิ่งยวด กับผุ้สูงอายุ หรือชายวัย เลข 40 ขึ้นไป ที่จริงแล้วการออกกำลังกายที่ผู้ฝึกต้องออกแรงต้านมีคุณประโยชน์กับคนทุกเพศ ทุกวัย แต่ทว่าผู้สูงอายุได้ประโยชน์ จากการเพาะกายมากที่สุด เพราะผู้สูงอายุที่เพาะกายอย่างสม่ำเสมอ นอกจากจะสามารถ หยุดยั้งความเสื่อม ของร่างกายแล้วยังสามารถฟื้นฟู ความเป็นหนุ่มให้กลับคืนมาได้ นอกจากนี้ การฝึกเพาะกายยังช่วย ให้สภาพจิตใจดีขึ้น สุขภาพจิตดีด้วย จิตใจแจ่มใส
ในวิทยาศาสตร์การกีฬาแห่งอเมริกัน ( The American College of Sports Medicine) ได้พิสูจน์และประกาศให้ทราบว่า จากผลการทดลองและ ทดสอบกับนักกีฬา สูงอายุ ประเภทต่างๆแล้ว กีฬาที่เกี่ยวกับ การเล่นเพาะกาย ในผู้สูงอายุจะได้ผลมากและร่างกายดีขึ้น ควรที่จะฝึกด้วยน้ำหนัก อาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง
อีกหน่วยงานหนึ่งคือ สถาบันผู้สูงอายุแห่งชาติ (The National Institute on Aging)ก็แนะนำให้ผู้สูงอายุ ออกกำลังกายแบบอาศัยอุปกรณ์น้ำหนักด้วยเช่นกัน เพราะการฝึกเพาะกาย มีประโยชน์ กับทุกเพศ ทุกวัย โดยไม่จำกัด เพศและวัย จากบางงานวิจัย ค้นพบว่า ผู้สูงอายุ ไม่จำเป็นต้องใช้ไม้เท้าค้ำยันอีกเลยและสามารถประกอบกิจกรรม เดินเที่ยวโดยไม่ต้องพึ่ง คนดูแลอีกด้วย
ลองมาดู นักเพาะกาย อาชีพต่างประเทศ กันว่ามีใครบ้างที่ยังฟิตปั๋งอยู่ มาดูทีละคนเลยคับ ชาวนิโกร serge nubret อายุ 62 และซิลเวสเตอร์
















ed corney อายุ 63




robby robinson วัย 62















dave draper วัย 65














frank zane วัย 61

คงไม่ต้องอธิบายว่า หุ่นยังคงดูดี ทว่า ถ้าเปรียบกับคนที่ไม่ได้ฝึก เพาะกายเลย กล้ามเนื้อและรูปร่างจะดูหย่อนยาน แถมมีพุง เหมือนกับท้องอีกอีก(ใกล้คลอด)