อมิโนแมก8000

อมิโนแมก8000
เป็นโปรตีนเม็ดที่ช่วยเสริมการสร้างกล้าม โ่ตได้อย่างรวดเร็ว เหมาะสำหรับคนที่ต้องการให้กล้ามโต เหมาะในการพกพา ขนาด 350 เม็ด ราคาสุดคุ้ม 1,099บาท รวมค่าส่งแล้ว

วันเสาร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

Side tricep

โพสท่าที่6

ท่านี้โพสไม่ยาก หากเราได้ทำการฝึก กล้ามเนื้อหลังแขนมาอย่างเต็มที่ และกล้ามเนื้อขาที่สมบูรณ์เต็ม ท่านี้ จะแสดงกล้ามเนื้อต้นแขนด้านข้าง แต่กล้ามเนื้อขาก็มีความสำคัญด้วยครับ ผู้ที่เข้าแข่งขันจะต้องเลือกว่า ร่างกายด้านซ้ายหรือขวาของเรา ด้านไหน กล้ามเนื้อเด่นสมบูรณ์เต็ม ถึงค่อยแสดงให้กรรมการเห็น พร้อมเอามือไขว้หลังไว้ โดยใช้นิ้วเกี่ยวกันไว้ หรือในบางคน อาจจะใช้วิธีจับข้อมือก็ได้ ขาที่แสดงต่อกรรมการ จะต้องงอเล็กน้อย และยืนบนปลายเท้า ที่ผมได้นำรูปมาแสดงจะมี การยืนที่แตกต่างกัน ของนักกีฬา เพาะกาย ลองสังเกตดูนะคับ ผู้ที่เข้าแข่งขันจะต้องเบ่งแข่นซึ่งจะช่วยให้กล้ามเนื้อ tricep ขยายตัว อาจจะยกส่วนหน้าอกและเบ่งกล้ามเนื้อส่วนท้องรวมทั้งกล้ามเนื้อขาอ่อนและน่อง ผู้ตัดสินจะพิจารณาจากกล้ามเนื้อ tricep ก่อน และรวมถึงพิจารณาจากศรีษะถึงเท้า ในท่านี้ผู้ตัดสินจะสำรวจ กล้ามเนื้อขาอ่อนและน่องเพิ่มเติม ซึ่งจะช่วยในการเปรียบเทียบในกรณีที่กล้ามเนื้อหลังแขน ของนักกีฬา เพาะกายมีขนาดและการพัฒนาที่เท่าเทียมกัน สำหรับ การทานไข่ไก่ต้ม หลายท่านก็เคย โทรศัพท์มาถามผมว่า ทานวันกี่ฟอง กี่มื้อดี ขอบอกว่า การทานไข่ต้ม นั้นจะต้องเป็นไข่ต้มสุก อาจกิน ครั้งละ 5-7 ฟอง ไม่เอาไข่แดง ในช่วงรีดไขมัน หรือสลายไขมัน แต่ในกรณี เพิ่มกล้าม ใน 7ฟองนั้น ก็ให้มีไข่แดงได้ 1ลูกครับ สำหรับ จะกินกี่มื้อดี นี่แล้วแต่ทุนทรัพย์มากกว่าคับ เพราะ บางคนมีงบเยอะ ก็จะกินวันละ 20-30 ฟองไปเลย(แต่ก็ต้องเบ่งเป็นมื้อๆ) แต่สำหรับคนที่งบน้อยแล้ว ได้กินดีกว่าไม่มีจะดีกว่า ครับ หลักสำคัญ ของการฝึก เพาะกาย สร้างกล้าม ก็ต้องฝึกอย่างต่อเนื่อง อย่าฝึกตามกระแส แบบว่า เห็นเพื่อนมีกล้ามแล้วอยากมี เด๋วนั้น ร่างกายไม่สามารถใหญ่โตได้เพียง 3-5 วัน จะต้องค่อยๆสร้างคับ ประกอบกับการกินที่ แบ่งเป็นมื้อๆ 4-6 มื้อ ครับ

วันพุธที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

Back lat spread

ท่านี้จะยืนคล้ายๆ ท่าแสดงกล้ามเนื้อแขนด้านหลัง แต่สำหรับท่านี้จะแสดงความกว้างของปีกและกล้ามเนื้อหลัง ให้ผู้ที่เข้าแข่งขัน ยืนหันหลังให้ผู้ตัดสินวางมือไว้ที่เอวกางข้อศอกกว้าง วางเท้าข้างหนึ่งไว้ด้านหลัง และที่สำคัญต้อง ดูด้วยว่า ขาของเราข้างไหนที่น่องมีความโดดเด่น จึงวางไปด้านหลัง เพื่อโชว์ให้คณะกรรมการ พิจารณา ผู้เข้าแข่งขันต้องเบ่ง Latissiums dorsi ให้ขยายศอกได้มากที่สุด เท่าที่จะทำได้ และแสดงการเบ่งกล้ามเนื้อน่อง โดย เบ่งแสดงกล้ามน่องให้มากที่สุดเท่าๆกับ กล้ามปีก เท่าที่จะทำได้

พอดีผมยุ่งๆเลย เพิ่งได้มา เพิ่มบทความในวันนี้ และนี่ก็คือ ท่าโพสท่าที่ 5 ไม่ยากเกินไปใช่ไหมคับ ลองอ่านและทำความเข้าใจ เรื่อยๆจะชินกับ คำพูดเองครับ สำหรับ นักกล้ามที่ยังงงตัวเองว่าทำไม เล่นกล้ามหนักๆแล้วยังไม่โตอีก หรือเปลี่ยนวิธีมาก็มาก กล้ามก็ยังไม่ใหญ่สักที ลองตรวจหาสาเหตุดูนะคับ ว่า เล่นแบบเดิมๆอยู่หรือเปล่า ลองเปลี่ยนท่าฝึกนะคับ และได้ฝึกแบบไม่ให้กล้ามหยุดพักหรือเปล่า ฝึกทุกวันกล้ามก็มีสิทธิ์แกรนไม่โตได้นะคับ สำหรับอาหาร ก็เช่นกัน หลายคนพึ่งอาหารธรรมชาติ แต่ก็สามารถเติบโตได้นะคับ แต่ต้องกินบ่อยๆและเยอะๆ หลีกเลี่ยงไขมัน คราวหน้าเราจะมาต่อในท่าที่ 6ครับโพสท่าที่ 5

วันพุธที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

Back Double Biceps

โพสท่าที่ 4

ท่านี้เหมาะสำหรับ ผู้ที่เข้าแข่งขันที่มีมัดกล้ามด้านหลังสมบูรณ์ รวมไปถึงมักล้ามหน้าแขนที่เต็มสมบูรณ์ ท่านี้ต้องยืนหันหลังให้คณะกรรมการตัดสิน และวางเท้าข้างใดข้างหนึ่ง โชว์มาด้านหลัง เพื่อโชว์กล้ามเนื้อน่องต่อคณะกรรมการให้คะแนน ผู้เข้าแข่งขันต้องเบ่งกล้ามเนื้อแขนรวมทั้งกล้ามเนื้อไหล่ กล้ามเนื้อหลังช่วงบนและล่าง กล้ามเนื้อขาอ่อน และน่อง คณะกรรมการจะเริ่มพิจารณาจากแขน หัวไหล่ และน่อง นอกจากนี้ยังพิจารณาตรงส่วนคออีกด้วย ดูลักษณะกล้ามเนื้อต่อต้นคอว่ามีการพัฒนาไปเพียงไรครับ ท่านี้จะพิเศษกว่าท่าอื่นตรงที่ จะช่วยให้ผู้ตัดสินได้เห็นคุณภาพของกล้ามเนื้อของผู้แข่งขันว่ามีความสมดุลเพียงไร จะทำให้สังเกตเห็นมากกว่าท่าอื่นๆครับ

วันอังคารที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

Side Chest

โพสท่า ที่ 3

ท่านที่เข้าแข่งขันขณะยืนบนเวที ต้องเลือกว่า ด้านไหนสำหรับในท่านี้ โดดเด่นในส่วนหน้าอกด้านข้าง เพื่อที่จะอวดแขนที่ดีกว่าคู่แข่งขัน รวมไปถึง หน้าอกด้านข้างที่เราพยายามเบ่งให้หน้าอกของเรามันเป่งออก บดบังรัศมีคู่แข่งให้ราบคาบ ผู้แข่งขันอาจยืนหันซ้าย หรือด้านขวาไปทางผู้ตัดสิน(คณะกรรมการ) และงอแขนให้ใกล้ผู้ตัดสินมากที่สุด ในตำแหน่งที่หันให้กรรมการได้ชม โดยกำมือไว้และมืออีกข้างจับเอวไว้ ขาที่อยู่ใกล้ผู้ตัดสินต้องงอเข่าลงและยืนบนปลายเท้า เพื่อให้โชว์ กล้ามเนื้อน่องด้วย ผู้แข่งขัน ขณะโพสต้องเบ่งหน้าอกและเบ่งแขนที่งออยู่ด้วย เพื่อโชว์กล้ามอก หน้าแขนให้ได้มากที่สุด อย่าลืมส่วนล่างคือขาและน่องจะต้องเกร็งไปพร้อมๆกันคับ นั่นคือส่งกำลังไปที่ปลายเท้า เหมือนจิกปลายเท้าไว้ ท่านี้ผู้ตัดสินสามารถ สำรวจให้คะแนนกล้ามเนื้อขาอ่อนและน่องด้านข้างได้ ซึ่งจะช่วยในการเปรียบเทียบพัฒนาได้ถูกต้องยิ่งขึ้นครับ

ครับ เอาละวันนี้ ก็ได้เพิ่มอีกท่าแล้วละ ลองไปฝึกกันดูนะคับ ถ้ายังไม่เคยฝึกเลย เวลาอยู่บนเวทีจะ เขอะเขิน และเวลาโพสจะไม่รื่น ในยิมดังๆ หรือทีมชาติ จะให้ความสำคัญเป็นพิเศษ เขาจะฝึกกันเป็นเกือบครึ่งชั่วโมงเลย ฝึกวนไปเรื่อยๆ ทั้ง 7 ท่าบังคับ ฝึกเกือบเป็นเดือนๆ ครับ

วันอาทิตย์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

Front Lat Spread

โพสท่าที่ 2

สำหรับท่าที่ 2 นี้ ให้ยืนหันหน้าไปทางผู้ตัดสิน ขาและเท้าห่างกันเล็กน้อย ผู้เข้าแข่งขันจะใช้มือ หรือกำมือไว้ที่เอวล่างหรือ Obliques และขยายกล้ามเนื้อ Latissimus ในขณะเดียวกันผู้ที่เข้าแข่งขันควร พยายาม เบ่งกล้ามเนื้อด้านหน้าอื่นๆให้มากที่สุด ห้ามมิให้ผู้เข้าแข่งขันยกลำตัวเพื่อแสดง Top inside of Quadriceps ผู้ตัดสินจะดูว่าผู้แข่งขันสามารถแสดงการขยายของกล้ามเนื้อ Latissimus หรือไม่ ซึ่งจะเป็นการสร้างรูปร่างแบบตัว วี จากนั้น ผู้ตัดสิน จะยังคงมองจากศรีษะถึงเท้า เช่นเคย สังเกตภาพรวมทั่วไปของร่างกายและจากนั้น จะเน้น ถึงรายละเอียดของกลุ่มกล้ามเนื้อนั้นๆ

โดยส่วนตัวแล้ว สำหรับผมนะคับ เวลาผมไปยืนบนเวที ท่าที่สองนี้ผมจะทำค่อนข้างเร็ว เพราะเป็นจุดที่ด้อยที่สุด นั่นคือปีกผม จะไม่ค่อยเยอะเท่าใดนัก ผมจึง แสดงต่อกรรมการแบบรีบๆหน่อย ไม่งั้นคณะกรรมการจะเห็นชัดและอาจถูกตัดคะแนน ไปครับ แต่ในปีต่อๆมา ผมได้เน้น การฝึกที่เยอะมากกว่าเก่าเพื่อพัฒนาปีกให้แผ่กว้าง ซึ่งต้องอาศัยระยะเวลา หลายเดือนหลายปีครับ ดังนั้นใครที่คิดจะเริ่มเล่นกล้าม เพาะกาย แล้ว แต่ยังกลัวว่าเล่นแล้วจะใหญ่ ผมขอรับรองว่าไม่ใหญ่อย่างที่คิดแน่นอน เพราะที่ใหญ่ๆ เห็นในรูป ล้วนแล้วแต่ ฝึกเพาะกาย มาไม่ต่ำ 5-7ปี บางท่าน 15ปีด้วยซ้ำครับ และต้องใช้ความพยายามอย่างสูง ย้ำความพยายามในการฝึกหลายเซทต่อวันต้องมีความพยายามอย่างสูงในการฝึกอย่างโหดๆๆครับ แต่อย่างที่เราเห็นๆกัน ว่า มีคนมายกเวต แล้วคุยระหว่างเซทเป็นนานสองนาน อันนี้ไม่ใหญ่แน่นอน มีแต่จะลงพุงครับ ขอบอก อิอิ

วันเสาร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

Front Double Biceps

โพสท่าที่ 1

แสดงท่ากล้ามเนื้อแขนด้านหน้า ท่าแสดงนี้ต้องยืนหันหน้าไปทางผู้ตัดสิน ขาและเท้าตรงห่างกันเล็กน้อย ผู้แข่งขันที่เข้าประกวดต้องยกแขนทั้งสองข้างสู่ระดับหัวไหล่และงอศอก กำมือ หันลง เพื่อให้เกิดการเบ่งกล้ามเนื้อ หน้าแขน Biceps และปลายแขน Fore arm ซึ่งเป็นกลุ่มกล้ามเนื้อที่สำคัญ ที่จะให้คะแนนในท่านี้ นอกจากนี้แล้วผู้แข่งขันควรพยายามเบ่งกล้ามเนื้อ ไบเซพ ส่วนอื่นเท่าที่จะทำได้ เพราะผู้ตัดสินจะพิจารณาทั้งตัวด้วย จากศรีษะ ถึงเท้าผู้ตัดสินจะพิจารณา หากล้ามเนื้อ ไบเซพ เพื่อดูการพัฒนาการของกล้ามเนื้อว่าเต็มหรือไม่สังเกตว่ามีการแยกระหว่างส่วน Anterior และ Posterior ของ Bicep หรือไม่ และพิจารณาจากหัวถึงเท้าต่อไปโดยสังเกตถึงพัฒนาการของแขน
ด้านหน้า Deltoids ,Pectorrals,Pec-lns,ส่วนท้อง ขาอ่อน และน่อง ผู้ตัดสิน จะสังเกตเห็นความหนาแน่นของกล้ามเนื้อ โครงสร้างและการทรงตัวทั้งหมด นี่ก็คือการโพสท่ากล้ามเนื้อแขนด้านหน้าทั้งสองข้าง ซึ่งนักกีฬาหรือท่านที่จะเอาดีด้านการแข่งขัน ที่จะต้องขึ้นเวที ต้องฝึกฝน ท่าจะได้ราบรื่น ไม่ติดขัด โพสได้เหมือนมืออาชีพจริงๆ หลังจากที่ได้แนะนำ ท่าฝึกเพาะกล้ามมาก็มาก คราวนี้ผมเลยมาแนะนำ การโพสท่าทั้ง 7 ซึ่งในวันนื้ เราได้รู้จักท่าแรก กันแล้ว ค่อยมาอ่านโพสกล้ามในท่าต่อไปนะคับ

วันอังคารที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

Darrem Charles

Darrem ชาร์ลส์ (เกิด 22 กรกฎาคม 1969 ใน Arouca, ทรินิแดด(ผมถึงว่า ทำไม ดาเร็มหน้าคล้ายๆแขก) เป็นนักเพาะกายอาชีพ สังกัด IFBB

การแข่งขันครั้งแรกของ ชาร์ลส์ Darrem ได้ในปี 1989 เมื่อเขาร่วมการแข่งขันใน IFBB สมัครเล่นชิงแชมป์โลก ชาร์ลได้ที่ 5 สมความมุ่งมาดปรารถนา ชาร์ลส์ครั้งแรกในการแข่งขัน IFBB คืนแชมเปี้ยน ในปี 1992 ซึ่งเขาได้ที่ 11 ปัจจุบันเขาอยู่ใน Boca Raton, FL, ที่ซึ่งเขาทำงานเป็นฝ่ายดูแล การฟิตเนสเซ็นเตอร์บนถนน Gladesชาร์ลส์ ได้ปรากฏตัวในวีดีโอ 'Titans DVD ชุดและดีวีดีอีกหลายสัญญา

§ ส่วนสูง คือ 9ฟุต 5นิ้ว

น้ำหนัก Contest : 235 ปอนด์


ประวัติการแข่งขัน ของดาเรม

1989 Trinidad Invitational Natural, Light-Heavyweight, 1st and Overall Winner

§ 1989 World Amateur Championships, Light-Heavyweight, 5th

§ 1990 World Amateur Championships, Light-Heavyweight, 2nd

§ 1991 World Amateur Championships, Light-Heavyweight, 2nd

§ 1992 Chicago Pro Invitational, 12th

§ 1992 Night of Champions, 11th

1995 Arnold Classic, 8th

1995 Florida Pro Invitational, 3rd

1995 Houston Pro Invitational, 7th

1995 Ironman Pro Invitational, 5th

1995 Niagara Falls Pro Invitational, 5th

1995 Night of Champions, 9th

1995 Mr. Olympia, 15th

1995 San Jose Pro Invitational, 5th

1995 South Beach Pro Invitational, 3rd

1996 Arnold Classic, 10th

1996 Florida Pro Invitational, 9th

1996 Ironman Pro Invitational, 5th

1998 Arnold Classic, 6th

1998 Ironman Pro Invitational, 2nd

1998 Night of Champions, 7th

1998 Mr. Olympia, Did not place

1998 San Francisco Pro Invitational, 3rd

1999 Arnold Classic, 8th

1999 Ironman Pro Invitational, 4th

1999 Night of Champions, 8th

2000 Arnold Classic, 7th

2000 Ironman Pro Invitational, 5th

2001 Arnold Classic, 8th

2001 Mr. Olympia, 18th

2001 Toronto Pro Invitational, 3rd

2002 Night of Champions, 4th

2002 Mr. Olympia, 16th

2002 Southwest Pro Cup, 1st

2002 Toronto Pro Invitational, 4th

2003 Arnold Classic, 6th

2003 Ironman Pro Invitational, 5th

2003 Maximum Pro Invitational, 1st

2003 Mr. Olympia, 7th

2003 Show of Strength Pro Championship, 6th

2004 Florida Pro Xtreme Challenge, 1st

2004 Hungarian Pro Invitational, 2nd

2004 Night of Champions, 2nd

2004 Mr. Olympia, 10th

2004 Show of Strength Pro Championship, 2nd

2004 Toronto Pro Invitational, 1st

2005 Arnold Classic, 6th

2005 New York Pro Championship, 1st

2005 Mr. Olympia, 9th

2005 Toronto Pro Invitational, 1st

2006 Arnold Classic, 8th

2006 Colorado Pro Championship, 2nd

2006 New York Pro Championship, 2nd

2006 Europa Super Show, 4th

2006 Montreal Pro, 2nd

2006 Atlantic City Pro, 1st

2006 Mr. Olympia, 14th

2007 Atlantic City Pro, 2nd

2007 Colorado Pro Championships, 2nd

2007 Keystone Pro Classic, 6th

2007 Montreal Pro Championships, Winner

2007 Mr. Olympia, 12th

2008 IFBB Tampa Bay Pro, 4th

2008 Atlantic City Pro, 3rd

2008 Atlantic City Pro (Masters Division), 1st

2008 Mr. Olympia, 11th

2009 Europa Show Of Champions, 3rd

2009 New York Pro, 7th

การแข่งขัน ของชาร์ลนั้น ช่างเยอะแยะมากมายเลยครับ และดูจากรูปร่างแล้ว ผมคิดว่าในหลายๆคนคงอยากจะมีหุ่นแบบนี้แน่นอน เพราะไม่ใหญ่โตจนเหมือนยักษ์และมัดกล้ามสมส่วนกลมกลึงทั้งหัวไหล่ แม้แต่กล้ามท้องที่ชัดลึกทุกร่องเลย ครับ สังเกตว่า แม้ดาเร็มนั้นจะมีผิวสีที่เข้ม แต่ก็ยังคงต้องทาสีเพิ่มเพื่อให้เกิด มิติ ทำให้มองเห็นกล้ามชัดและร่องลึกของกล้ามในแต่ละจุดอย่างชัดเจนครับ

เพาะกายเริ่มต้นกับJay Culter

กลับมาอีกครั้ง คราวนี้มากับ ตารางการฝึกที่ นายเจคัตเลอร์ มิสเตอร์โอลิมเปีย สุดยอดอีกคน ได้แนะนำการฝึกกล้าม นายเจบอกว่า การฝึกกล้ามเนื้อให้เติบโตแบบก้าวหน้าและเร็ว สำหรับคนที่เริ่มต้นใหม่ๆ ต้องแบบนี้คับ อาจมีการเปลี่ยนแปลงกันบ้างได้ครับแบ่งการฝึกเป็น 4 วันหยุด 1 วันครับ

Jay's Training Cycle for Beginners

Day 1:

Chest & Triceps

Day 2:

Back & Biceps

Day 3:

Legs

Day 4:

Shoulders, Traps, Abs & Calves

Day 5:

Off

Day 6:

Repeat cycle

ส่วนการฝึกกล้ามท้อง ที่มีในวันที่ 4 ของการฝึก ผมได้ยกมาให้ดูเป็นตัวอย่าง ส่วนมากกล้ามท้องจะฝึกท่าละ 3 เซทๆละ 8-15 ครั้ง ไม่มากเหมือนนักเพาะกายในยุคก่อนๆ

Seated Calf Raises

3 x 8-12

Standing Calf Raises

3 x 8-12

Ab crunches on a bench

3 x 12-15

Hanging Leg Raises (knees bent)

3 x 12-15

แต่เมื่อฝึกได้ถึงขั้น ขนาดมืออาชีพจำนวนครั้งก็จะมากขึ้น เพราะเนื่องจาก กล้ามเนื้อสามารถทนทานต่อการฝึกมากขึ้น